วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ไทยจ่อนำข้อมูลสายลับเขมรฟ้องศาลโลก


 
 จับกุม
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

            เจ้าหน้าที่จับ 3 ผู้ต้องสงสัยเป็นสายลับให้เขมร หลังเข้ามาสอดแนมหาพิกัดที่ตั้งทหาร และสำรวจหลุมหลบภัยชาวบ้าน ด้านนายกฯ ขู่นำข้อมูลนี้ฟ้องศาลโลก

            วานนี้ (มิถุนายน) ที่ สภ.กันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ  พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ. กันทรลักษ์ และคณะนายทหารกองกำลังสุรนารี แถลงผลการจับกุม 3 ผู้ต้องสงสัยเป็นสายลับเข้ามาสืบหาข่าว และหาพิกัดที่ตั้งของทหารให้ประเทศกัมพูชา ซึ่งประกอบไปด้วย นายสุชาติ มูฮำหมัด อายุ 32 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย นับถือศาสนาอิสลาม นายอึ้ง กิมไทย อายุ 43 ปี สัญชาติกัมพูชา เชื้อชาติกัมพูชา นับถือศาสนาพุทธ และนายเหวียง เติ้งยัง อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม เชื้อชาติเวียดนาม นับถือศาสนาพุทธ

            ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากสายข่าวว่า มีกลุ่มบุคคลซึ่งมีคนไทยรวมอยู่ด้วยได้แฝงตัวเข้ามาหาข่าวโจรกรรมข้อมูล โดยสอดแนมฐานที่ตั้งของทหาร และสำรวจหลุมหลบภัยของชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงตระเวนออกตรวจพื้นที่ และพบชายต้องสงสัย 3 คน ขับรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน ชว 1901 กรุงเทพมหานคร วนเวียนอยู่ในพื้นที่อย่างมีพิรุธ จึงได้เรียกตรวจ แต่รถคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ตามและสามารถจับกุมรถคันดังกล่าวไว้ได้

            โดยจากการตรวจค้นภายในรถพบแผนที่ทางทหารของกัมพูชา มาตราส่วน ต่อ 50,000และแผนที่ประเทศไทย มาตราส่วน ต่อ 1,200,000 พร้อมโทรศัพท์มือถือ เครื่อง โดยในแผนที่ประเทศไทยมีการจดข้อความพิกัดหมายเลข 10 หลัก ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันเฉพาะผู้ต้องหา อย่างไรก็ตามทั้ง 3 ยังไม่ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ใด ๆ แต่ขณะนี้ทหารการข่าวของกองกำลังสุรนารี ได้เร่งถอดรหัสตัวเลข 10 หลัก ที่ผู้ต้องหาจดไว้ในแผนที่ประเทศไทยแล้ว เชื่อว่าน่าจะทราบผลได้ในไม่ช้านี้

            นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจปัสสาวะยังพบว่า นายสุชาติ คนไทยซึ่งเป็นคนขับรถ และนายอึ้ง มีสารเสพติดในร่างกาย ก่อนที่ทั้งสองจะรับสารภาพว่า เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้ ขณะที่นายทหารระดับสูงของกองทัพแห่งชาติกัมพูชา ได้ประสานงานมายังกองกำลังสุรนารี เพื่อขอตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน กลับมาสอบสวนที่ประเทศกัมพูชาแล้ว แต่ทางฝ่ายไทยไม่ยินยอม และยืนยันจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

          ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นนี้หลังทราบเรื่องว่า ต้องดำเนินการสอบสวนถึงสาเหตุ และวัตถุประสงค์ของคนกลุ่มนี้ โดยดำเนินคดีตามกฎหมายของไทย และแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบว่า ไทยไม่ยอมรับการกระทำเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นถือนี้ไทยสามารถบอกกับเวทีต่าง ๆ ในโลกได้ว่ากัมพูชามีเจตนาอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อมูลดังกล่าวเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการมรดกโลก หรือยื่นต่อศาลโลก แต่ต้องพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ ก่อน ซึ่งอย่างไรเสียข้อมูลตรงนี้เป็นประโยชน์กับฝ่ายไทยอย่างแน่นอน
          ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการสอบสวนตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ไทยยังไม่มีแนวคิดที่จะไปขอเจรจาเปลี่ยนตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับกัมพูชา และยังไม่ได้รับรายงานว่าทางกัมพูชาได้ติดต่อประสานอะไรมาหรือไม่



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น